หน้าเว็บ

สวัสดีค่ะ

ยินดีต้อนรับ เข้าสู่บลอก ของพลอยนะคะ



บลอกนี้เป็นบลอกที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับการใช้EM(อยู่ระหว่างพัฒนาข้อมูล)



และแนะนำผลิตภัณฑ์ EM- TEREX หัวเชื้้อจุลลินทรีย์ชีวภาพของเรา



เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุมคุณภาพ ผลิตจากผัก-ผลไม้ Food Grade



มั่นใจได้ในคุณภาพค่ะ



ถ้าใช้แล้วดีอย่าลืมแวะมาอุดหนุนกันอีกนะคะ



วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การใช้ EM กับสุนัข




1.การใช้EM ล้างพื้นกรงหรือบริเวณที่สุนัขอยู่


และใช้อาบน้ำน้องหมา


ผสม EM 1 ส่วนกับน้ำสะอาด 50 ส่วน


หรือัตรา 1: 50 เพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการ


ถ้าชอบเข้มข้นก็EMเยอะหน่อย


ถ้าไม่ชอบกลิ่นก็ใส่น้ำเยอะๆ


แต่อย่าเกินอัตราส่วน 1:500 เพราะมันจะไม่ได้ผลค่ะ


ใช้ล้างพื้นเป็นน้ำสุดท้ายแล้วปล่อยให้แห้งหรือ


ใช้ผ้าถูให้แห้งไม่ต้องล้างน้ำเปล่าซ้ำ


ใช้อาบน้ำก็เช่นเดียวกัน


ใช้อาบนำสุดท้ายแล้วเป่าขนให้แห้งเลยค่ะ


จะทำให้สุนุขขนนุ่มสวย และลดกลิ่นเหม็นได้เป็นอย่างดีค่ะ


กรณีที่สุนัขเป็นโรคผิวหนัง การอาบน้ำด้วยEM สามารถช่วยรักษาได้


แต่ต้องใช้ระยะเวลาสักหน่อยนะคะ


2. ใช้รักษาแผล


หากสุนัขเป็นแผล ให้ผสมEM 1ส่วน กับน้ำสะอาด1 ส่วน


ทาแผลเช้าเย็น จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นค่ะ


3.ใช้ปรับสมดุลในลำไส้ ช่วยเจริญอาหาร


อากาศร้อนๆบางครั้งสุนัขท้องไส้ปั่นป่วนเบื่ออาหาร


สามารถผสมEM ประมาณ10 ซีซี กับน้ำที่สุนัขกิน 1ลิตร


จะช่วยให้เค้าเจริญอาหารขึ้น และลดกลิ่นมูลสัตว์ได้ด้วยค่ะ


ให้กินเป็นประจำได้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้สุนัขมีสุขภาพดีแข็งแรง



4.ใช้ EM ใส่ฟ๊กกี้พ่นในบ้านลดกลิ่นต่างๆ



สำหรับดับกลิ่นบริเวณบ้าน


ผสมEM 1 ส่วน กับน้ำสะอาด 10


ส่วนหรืออัตตราส่วน1:10 ใส่ฟ๊อกกี้


พ่นๆให้ทั่วโดนตัวสัตว์เลี้ยงได้ได้ สัตว์เลี้ยงเลียกินเข้าไปได้


ปลอดภัยค่ะ ประมาณ15 นาทีกลิ่นจะหายไป


หรือเบาบางลงพ่นวันละกี่ครั้งก้ได้ค่ะ


กรณีห้องเหม็นอับหรือรองเท้าเหม็นก็พ่น


ได้นะคะสำหรับพี่ที่เหม็นกลิ่น EM ให้ลองผสมน้ำให้มากขึ้น


เป็นไปได้ว่ามันเข้มเกินไปกลิ่น EM เลยอยู่นาน


ตามปกติไม่เกิน 15 นาทีก็ไปหมดแล้วค่ะ


การผสมใส่ฟ๊อกกี้1 ครั้งเก็บได้ประมาณ7วัน แล้วก็ผสมใหม่ค่ะ





California Certified Organics Farmers


ประเทศสหรัฐอเมริกา


ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเกษตรธรรมชาติได้ให้คำรับรองเมื่อ


คศ.1993 ว่าEMเป็นวัสดุประเภทจุลินทรีย์ (Microbial Innoculant)


ที่ปลอดภัยและได้ผลจริง 100 %


สำหรับในประเทศไทย


กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์


กระทรวงสาธารณสุข


ได้นำไปวิเคราะห์แล้วรับรองว่าจุลินทรีย์ EM


ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์


จึงสามารถนำ EM ไปใช้ประโยชน์ได้หลายประการ

**********************************************

การใช้ EM กับตู้ปลา


ผสม EM ในอัตราส่วน 1: 1000

ลงในตู้ปลาสวยงามหรือบ่อปลา

จะช่วยให้น้ำในตู้ปลาใส ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อย

ปลามีสุขภาพแข็งเเรง ต้านทานโรคดี

การใช้ EM กับสุกร

การเลี้ยงสุกร สิ่งสำคัญคือ

คอกต้องให้สะอาด อากาศถ่ายเทได้ดี

แดดไม่ส่องมากเกินไปและที่สำคัญมาก คือ

การบำบัดกลิ่นมูลสุกร จะทำให้ทั้งผู้เลี้ยงและสุกร

ตลอดจนเพื่อนบ้านไม่เครียด คุณภาพชีวิตดี


การให้อาหาร

ผสม EM ในน้ำดื่ม

โดยใช้วิธีต่อท่อจากถังสูงให้น้ำไหลลงท่อน้ำดื่มตามคอก

มีก๊อกดูดเฉพาะคอก หากเลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ

ให้ผสม EM ในน้ำใส่ภาชนะตามที่มี

(อัตรา EM สด 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 10 ลิตร

หรือ อัตรา EM ต่อน้ำ 5,000-10,000 เท่า)

การดูแล


ฉีด พ่น ล้างคอกด้วยน้ำผสม EM เสมอๆ

ทั้งนี้น้ำที่ล้นคอกที่ผสม EM

จะไหลไปช่วยบำบัดน้ำเสียในท้องร่อง ในบ่ออีกด้วย

กรณีลูกสุกรท้องเสีย

ใช้ EM สด 5 ซีซี หรือ 1 ช้อนชา

กรอกปากให้กิน จะแก้อาการท้องเสียได้

มูลสุกร ที่ใช้ EM บำบัด นำไปทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยแห้งได้

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การใช้ EM กับกระต่าย


วิธีการใช้

1. สำหรับดับกลิ่นบริเวณกรงที่น้องต่ายอยู่

กลิ่นฉี่จะเเรงเป็นพิเศษผสมEM 1 ส่วน กับน้ำสะอาด 10 ส่วน

หรืออัตตราส่วน1:10 ใส่ฟ๊อกกี้ พ่นๆให้ทั่ว

โดนตัวน้องต่ายได้ น้องต่ายเลียกินเข้าไปได้ปลอดภัยค่ะ

ประมาณ15 นาทีกลิ่นจะหายไปหรือเบาบางลง

พ่นวันละกี่ครั้งก้ได้ค่ะ

กรณีห้องเหม็นอับหรือรองเท้าเหม็นก็พ่นได้นะคะ

สำหรับพี่ที่เหม็นกลิ่น EM ให้ลองผสมน้ำให้มากขึ้นค่ะ

เป็นไปได้ว่ามันเข้มเกินไปกลิ่น EM เลยอยู่นาน

ตามปกติไม่เกิน 15 นาทีก็ไปหมดแล้วค่ะ

การผสมใส่ฟ๊อกกี้1 ครั้งเก็บได้ประมาณ7วัน แล้วก็ผสมใหม่ค่ะ

2.การใช้ล้างพื้น ล้างถาดรองกรง

อาบน้ำน้องต่ายตัวเหม็น

ผสม EM 1 ส่วนกับน้ำสะอาด 50 ส่วน

หรือัตรา 1: 50 เพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการ

ถ้าชอบเข้มข้นก็EMเยอะหน่อยถ้าไม่ชอบกลิ่นก็ใส่น้ำเยอะๆ

แต่อย่าเกินอัตราส่วน 1:1000 เพราะมันจะไม่ได้ผลค่ะใ

ช้ล้างพื้นเป็นน้ำสุดท้ายแล้วปล่อยให้แห้ง

หรือใช้ผ้าถูให้แห้งไม่ต้องล้างน้ำเปล่าซ้ำ

ใช้อาบน้ำก็เช่นเดียวกัน ใช้อาบนำสุดท้ายแล้วเป่าขนให้แห้งเลยค่ะ

3.การใช้ช่วยปรับสมดุลในลำไส้

เช่นเบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องเสีย

(ยกเว้นกรณีโดนสารพิษ แต่ถ้าหาหมอไม่ได้จริงๆก็ลองดูค่ะ)


จุลลินทรีย์ต่างๆที่มีอยู่ในEM

จะเป็นจุลลินทรีย์ตัวเดียวกับที่มีอยู่ในท้องของสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อ

รวมถึงคนด้วยดังนั้นมันจึงทำหน้าที่ในการช่วยย่อยได้ดี

จุลลินทรีย์ตัวที่เราคุ้นเคยกันดี ที่มีใน EM คือ แลคโตบาซิลลัส

เหมือนในยาคูลของคนนั่นล่ะค่ะ

ตามโรงเลี้ยงหมูเค้าจะให้หมูกินเพื่อลดกลิ่นมูล

และให้ได้เนื้อดีกินแล้วมันจะเจริญอาหารด้วยค่ะ

หน้าร้อนอย่างนี้ น้องต่ายที่บ้านท้องไส้แปรปรวนเบื่ออาหาร

พลอยก็ให้กิน เพื่อปรับสมดุลในท้อง

และเคยใช้รักษาชีวิตกระต่ายท้องอืดที่แบบว่าท้องแข็งมากๆมาแล้ว

ปริมาณการให้กินประมาณ3-5ซีซี เพิ่มหรือลดได้ค่ะ

ใส่ขวดน้ำขนาด250 ml. ให้กินบ่อยแค่ไหนก็ได้ค่ะ

ถ้าท้องเสียก็ดูดใส่ไซริ้งสัก 1-2 ซีซี

และดูดน้ำเข้าไปอีก4 ซีซี ก็เป็นอันว่าเต็มไซริ้งอันเล็กพอดี

แล้วก็ป้อนให้กินค่ะ อันนี้เข้มข้นหน่อยใช้เฉพาะกิจ

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เลขที่บัญชี สำหรับชำระค่าสินค้า..






ชื่อบัญชี : นางสาว กัญจพจญ์ ไชยประสิทธิ์

สาขา: สุขุมวิทซอย 71

ประเภท: ออมทรัพย์

เลขที่บัญชี: 071-257-534-1



*******************************************








ชื่อบัญชี : นางสาว กัญจพจญ์ ไชยประสิทธิ์



สาขา: ย่อยเดอะมอลล์งามวงศ์วาน



ประเภท: ออมทรัพย์



เลขที่บัญชี: 493-0-07906-3



***************************************************

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

EM สูตรป้องกันเชื้อราหรือไร







ส่วนผสม





1. หัวเชื้อ EM 1 ลิตร




2. กากน้ำตาล 1 กก.




3.ตระไคร้หอม 2 กก.




4. ข่า 2 กก.




5. ใบและเมล็ดสะเดา 2 กก.




วิธีทำ




1. นำตระไคร้หอมข่า และ สะเดา ปั่นหรืโขลกให้ละเอียด ใส่น้ำให้พอคั้นได้




2. คั้นเอาแต่น้ำจะได้น้ำสมุนไพรประมาณ3 กก.




3.ผสม กากน้ำตาลกับน้ำสะอาดคนให้เข้ากัน




4. ใส่หัวเชื้อEM และน้ำสมุนไพรที่คั้นได้ ลงไปผสมกับน้ำกากน้ำตาล คนจนส่วนผสมเข้ากัน




5. หมักไว้นาน3 วัน จึงนำมาใช้ได้




--เก็บได้นานประมาณ3เดือน--




วิธีการใช้




ใช้ 1/2 ลิตร ผสมกับน้ำสะอาดครึ่งลิตร พ่นต้นไม้ทุก3วัน






ขอขอบคุณข้อมูลจากhttp://kukana.igetweb.com/index.php?mo=14&newsid=36504




EM สูตรไล่ศัตรูพืช

span >EM สูตรไล่ศัตรูพืช



<



ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://kukana.igetweb.com/index.php?mo=14&newsid=36504


ราคา ที่จำหน่าย และบริการส่ง


ราคา ที่จำหน่าย และบริการส่ง

EM CARE&CLEAN

EM แกลลอนขนาด1ลิตร ราคา85บาท

EM ขนาด30ลิตร ราคา 1300บาท

กากน้ำตาล ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 35 บาท

EM 24 แกลลอนขึ้นไปมีส่วนลดให้ค่ะ

หากสนใจสั่งซื้อจำนวนมาก โทรมาขอใบเสนอราคาได้ค่ะ

สั่งซื้อที่พลอยได้ ตลอด24ชั่วโมง

รับสินค้าด้วยตัวเองได้ที่

1.จัสโก้ สุขุมวิท71

2.รถไฟฟ้า พระโขนง

3.ปากซอยปรีดี 2 ถนนสุขุมวิท71

4. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน จ.-ศ.

5.ละแวกใกล้เคียง พระโขนง คลองตัน อ่อนนุช



มีจำหน่ายที่

1. www.rabbitcafe.net (ร้านขายสินค้าเกี่ยวกับกระต่าย)

2.ร้าน TARO PETSHOP จตุจักรพลาซ่า โซนD

ร้านอยู่ระหว่างซอย 8 กับ 9 (ด้านข้างเจเจมอลล์)

เปิดทุกวันค่ะ


บริการส่ง

1.ทางไปรษณีย์

นน.ไม่เกิน 2 กก.(1 แกลลอน) ค่าส่ง 35บาท

นน.3 - 5 กก. ( 2- 4 แกลลอน ) ค่าส่ง 55บาท

การขยาย EMและคำถามที่พบบ่อย

การขยาย EM

EM-EXTRA เป็นหัวเชื้อแบบเข้มข้น

ซึ่งสามารถขยายได้อีกหลายเท่าตัวเลยค่ะ

1.การขยายทำอย่างไร ใช้อะไรบ้าง?

ตอบ ..

1. หัวเชื้อ EM

2.กากน้ำตาล

3.น้ำสะอาด

โดยใช้อัตตราส่วนในการผสม3อย่างเข้าด้วยกันดังนี้ค่ะ

กากน้ำตาล 1 ส่วน หัวเชื้อEM 1 ส่วน น้ำสะอาด18 ส่วน

หรือ 1:1:18นั่นเองค่ะ

ไม่ว่าเราจะขยายเยอะแค่ไหนก็จำหลักการง่ายๆเท่านี้พอ

แต่อย่าลืมเขย่าหรือคนกากน้ำตาลให้ละลายนะคะ

เพราะมันเหนียวและจะนอนก้นค่ะ

แล้วเราก็จะได้น้ำสีน้ำตาลเข้มออกไปทางดำๆ

จากนั้นก็ปิดฝาให้สนิทเพราะจุลลินทรีย์ชีวภาพนั้น

ไม่ต้องการอาศในการเจริญเติบโต

วางทิ้งไว้5-7วันให้เจ้าจุลลินทรีย์ได้กินอาหาร(กากน้ำตาล)


และเจริญเติบโตให้พอใจ เราก็นำมาใช้ได้เลย

จะเห็นได้ว่าได้ปริมาณเพิ่มมากขึ้นตั้งเยอะ

นำไปใช้ประโยชน์ได้มากมายเลยล่ะค่ะ

และก็ต้องขอบอกอีกนิดนึงนะคะว่าเวลาที่เปิดฝามา

แล้วเห็นฝ้าขาวๆจับเต็มผิวน้ำ ไม่ต้องตกใจไป

ไม่ใช่เชื้อรา ไม่มีอันตราย

นี่แสดงว่าเจ้าจุลลินทรีย์ของเราเติบโตดีมาก

เราก็คนๆให้ผสมไปกับน้ำนั่นล่ะค่ะไม่ต้องไปตักทิ้งให้เสียเวลา

ตัวอย่างเช่น

จากหัวเชื้อEM 1 ลิตร กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม น้ำสะอาด18ลิตร

เมื่อขยายโดยวิธีข้างต้นเราก็จะได้น้ำจุลลินทรีย์ชีวภาพเพิ่มจาก1ลิตรเป็น20ลิตร

2.ทำไมจึงต้องใช้กากน้ำตาลในการขยาย ใช้อย่างอื่นได้ไหม?

ตอบ..

เพราะว่ากากน้ำตาลจะเป็นอาหารของจุลลินทรีย์ค่ะ

ใช้อย่างอื่นได้ค่ะถ้าขยายในปริมาณน้อย

เช่นน้ำตาลทราย น้ำผลไม้ หรือจะผสมเศษผักผลไม้ในครัวเรือนเราไปด้วยก็ได้


แต่ที่นิยมใช้กากน้ำตาลเพราะราคาถูกค่ะ

3.EMขยาย กับ EM หัวเชื้อต่างกันอย่างไร การใช้ต่างกันไหม

ตอบ...

แตกต่างกันทางด้านคุณสมบัติค่ะ

หัวเชื้อจากผู้ผลิตนั้นจะมีที่มาจากการหมักผักผลไม้

มีการควบคุมคุณภาพ

ย่อมได้ปริมาณที่เข้มข้นกว่าแบบขยาย

และเก็บรักษาได้นานประมาณหนึ่งปี

แต่การขยายนั้นประโยชน์ก็เพื่อให้ได้ปริมาณมากขึ้น

ความเข้มข้นลดลงเล็กน้อย

แต่ปริสิทธิภาพไม่น้อยนะคะ

และEM ขยายจะเก็บได้ไม่นานเหมือนหัวเชื้อ

ลองสังเกตดูได้ถ้าน้ำEMสีดำผิดปกติ

กลิ่นไม่อมเปรี้ยวอมหวาน

เขย่าไม่มีฟอง ก็เอาไปเทลงท่อได้เลยค่ะ

แล้วมาขยายใช้ใหม่ ^^


ทั้งสองอย่างนี้ไม่ต่างกันเลยในด้านการใช้

ใช้เหมือนกัน อัตราส่วนเดียวกันเก็บรักษาเหมือนกันค่ะ


เพียงแต่บางคนอาจจะไม่อยากวุ่นวายขยายให้เสียเวลา


ก็ใช้หัวเชื้อไปเลย


4.ดูยังไงว่า EM หมดอายุ ใช้ต่อไม่ได้แล้ว?

EM ที่หมดอายุการใช้งานจะมีลักษณะเช่นนี้ค่ะ

-สีดำผิดปกติ

-กลิ่นไม่อมเปรี้ยวอมหวาน

-เขย่าไม่มีฟอง

**เก็บในที่โดนแดดและอุณหภูมิสูงจะเสียเร็วค่ะ**

5.ถ้าเอาEM ทั้งแบบหัวเชื้อและขยายไปผสมน้ำเปล่าเพื่อรดน้ำต้นไม้หรือทำอย่างอื่นแล้วใช้ไม่หมดเก็บไว้ได้นานแค่ไหน?


ตอบ

เมื่อผสมกับน้ำเปล่าแล้วเจ้าจุลลินทรีย์ก็จะขาดอาหารหรืออาจถูกรบกวนจากอากาศเยอะๆ

ก็จะอยู่ได้ประมาณ7วันค่ะแล้วก็จะลาโลกนี้ไป

โดยมีอาการดังข้อ4 ^___^

6.EMเอาไปใช้อะไรได้บ้าง เอาแบบเข้าใจง่ายๆนะ? ^0^

ตอบ

1.ใช้ดับกลิ่นฉี่กระต่าย และกลิ่นจากสัตว์เลี้ยง

อันนี้พลอยใช้ประจำ แนะนำให้ใช้หัวเชื้อไปเลยค่ะ


ผสมน้ำอัตราส่วน1:10

พ่นบริเวณที่กระต่ายอยู่

ผสมใส่ฟ๊อกกี้ที่ใช้รดต้นไม้ พ่นบ่อยแค่ไหนก็ได้

โดนตัวน้องต่ายก็ไม่เป็นไรกินได้ค่ะ


ผสมครั้งนึงใช้ได้ตั้งหลายวันค่ะ หรือจะผสมแบบเจือจางหน่อยสัก1:10 - 1:20


ให้ได้น้ำสีชาอ่อนๆแล้วล้างพื้นล้างกรงปล่อยให้แห้งไปเลย

ไม่ต้องล้างน้ำเปล่าซ้ำก็ช่วยได้เยอะค่ะ

กรณีที่พื้นที่ใหญ่มากใช้อัตรา1:1000 ได้นะคะ

2.ใช้ดับกลิ่นตัวน้องหมาและที่ๆเค้าอยู่ ใช้เหมือนกับกระต่ายเลยค่ะ

แต่ใช้หัวเชื้อหรือขยายก็ได้ น้องหมาจะไม่ค่อยเหมม็นสาบ

และบ้านเราก็จะไม่ค่อยเหม็นด้วยค่ะ

3.ใช้พ่นในรถ ในห้องที่เหม็นอับ อัตราส่วนการผสมก็เหมือนเดิมประมาณ 1:10

แต่ปรับได้ตามความชอบของแต่ละคนนะคะ

ใช้มากไม่เป็นไรใช้น้อยหน่อยกลิ่นEMก็จะจางหน่อยเร็วหน่อย

(บางคนไม่ชอบกลิ่น)


4.ใช้เทลงท่อลดปัญหาท่อเหม็น

และช่วยเทศบาลบำบัดน้ำเสียหรือเทลงถังแซกห้องน้ำที่บ้านก็ได้ค่ะ

แต่อันนี้แนะนำเป็นแบบขยายเพราะจะต้องใช้ในปริมาณมากๆ อัตตราส่วน 1 :10000 ใส่ทุกครึ่งเดือน


หรือจะใส่หัวเชื้อลงไปเลยก็ได้ค่ะอาทิตย์ละ1ลิตร


5.ให้สัตว์เลี้ยงรับประทานช่วยให้เจริญอาหารและปรับสมดุลในระบบย่อย

ผสม EM 3 ซีซีกับน้ำ1ลิตรให้สัตว์กินได้ไม่มีอันตรายใดๆค่ะ

ช่วยลดกลิ่งมูลสัตว์ได้ด้วยค่ะ


6.ใส่ตู้ปลาบ่อปลาลดปัญหาน้ำขุ่นเร็วได้ดี

ช่วยให้ปลาสุขภาพดีไร้สารเคมีด้วย

ตู้ปลา200ลิตรใช้ประมาณ4ฝาขวดน้ำดื่มค่ะ

ลดหรือเพิ่มได้ปลอดภัยค่ะ

7. ใช้รดน้ำต้นไม้ในอัตรส่วน1:1000

แต่ถ้าต้องการความเข้มข้นก็ลดปริมาณน้ำได้

เวลาที่พลอยผสมใช้ที่บ้านพลอยก็ประมาณเอาค่ะ ไม่ต้องเป๊ะๆ

พลอยชอบแบบเข้มข้น รดแล้วต้นไม้งามมากไม่ค่อยมีแมลงรบกวน

มะนาวก็ออกลูกเต็มต้นเลยค่ะ ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีใดเลย


8. ฉีดผ้าเหม็นอับ รองเท้าเหม็น ควันไฟติดเสื้อผ้า

ใช้พ่นเอาแบบข้อ 1 เลยค่ะ


9. ถ้าใครสามารถทำEMใช้เองที่บ้านจะดีมากเลยนะคะ

เพราะหัวเชื้อนั้นซื้อแค่ครั้งเดียวก็ได้ถ้าเราขยายโดยการหมักกับผักผลไม้ต่างๆ

เราก้เอาตรงนั้นล่ะค่ะมาใช้เป็นหัวเชื้อในการหมักครั้งต่อไปส่วนกากที่ได้ก็เป็นปุ๋ยชั้นดีค่ะ


ถ้ามีคำถามอะไรที่อยากรู้เพิ่มเติมก็ถามมาได้เลยนะคะ ยินดีรับคำติ-ชมค่ะ


พลอยอยากให้มีคนใช้EM กันเยอะๆ


เพราะถ้าทุกบ้านช่วยกัน

แม้ว่าน้ำที่ออกมาจะสกปรกแต่ก็ยังมีจุลลินทรีย์อยู่

นั่นก็เท่ากับว่าเริ่มกระบวนการบำบัดน้ำเสียแล้วล่ะค่ะ


ทั้งหมดที่แนะนำมานี้พลอยลองมาหมดแล้วค่ะ

กลิ่นของEM แม้จะแรงไปหน่อย

แต่ไม่นานก็จะหายไปเองค่ะ

รับรองว่าไม่เหม็นติดรถ ติดบ้าน

ติดตัวสัตว์เลี้ยงแน่นอนค่ะ ที่สำคัญปลอดภัยต่อคนสัตว์สิ่งแวดล้อม ทารก และคนชราด้วยค่ะ^__^

การใช้เพื่อดับกลิ่น


1.ผสมEMกับน้ำสะอาด ครึ่งลิตรต่อน้ำ10ลิตร หรือตามสัดส่วนการใช้งานจริง


เทราดล้างบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่ในการล้างน้ำสุดท้าย


แล้วทิ้งให้แห้งโดยไมต้องล้างน้ำเปล่าซ้ำ


อย่างน้อยอาทิตย์ละ2ครั้งในช่วงแรก


EM จะสามารถขจัดกลิ่นที่เป็นปัญหาได้


หากต้องการความเข้มข้นใช้มากกว่านี้ได้ไม่มีอันตรายใดๆ


3.ผสมEM 1 :5 สเปร์ยพ่นบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่บ่อยๆ


จะทำให้อากาศสดชื่นขึ้นลดกลิ่นอับต่างๆได้ดี


สามารถพ่นลงตัวสัตว์เลี้ยงได้


**คุณสมบัติโดยทั่วไปของEM จะมีกลิ่นอมเปรี้ยวอมหวาน


เมื่อผสมน้ำแล้วกลิ่นนี้ก็จะหายไปเอง ไม่เหม็นกวนใจนะคะ

การใช้ด้านเกษตรกรรม


ด้านการเกษตร


1. ผสม EM CARE&CLEAN 1 ส่วน ต่อน้ำเปล่า 500-1,000 ส่วน (1 ต่อ 500-1,000 เท่า)


เทรดลงพื้นดินที่สูญเสียสภาพเนื่องจากการใช้สารเคมีมานาน


ดินเป็นกรด-ด่าง สภาพดินแข็ง หรือโคนต้นไม้ ทุก 2 วัน ผ่านไป 1 อาทิตย์


จะสังเกตุว่าดินเริ่มจะร่วนซุย มีอากาศเข้าไปในดินเพิ่มขึ้น และอุ้มน้ำได้มากกว่าเดิม


ทำให้สภาพดินพร้อมดูดซึมสารอาหารอื่นๆได้ง่ายขึ้น


สัดส่วนดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามพื้นที่การใช้งาน ใช้เพิ่มมากขึ้นได้ค่ะ


2. ผสม EM CARE&CLEAN 100 มิลลิลิตร กับน้ำ 1 ถัง(20 ลิตร)


หรือเปรียบเทียบสัดส่วนการใช้งานตามปริมาณ



การใช้จริง ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวสามารถที่จะใช้รดพืชนานาชนิดได้


เช่น พืชผักสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ พืชเศรษฐกิจต่างๆ


ผลที่ได้รับคือ EM จะช่วยเพิ่มฮอร์โมนพืช ขับไล่แมลงศัตรูพืช


เช่น เพลี้ยต่างๆเป็นอย่างดี แมลงที่กินใบของพืช ก่อให้เกิดความเสียหาย


ซึ่งใน EM มีสารสกัดจากธรรมชาติในการกำจัดแมลง


ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


3. ในการใช้ EM CARE&CLEAN จะให้ผลดีสูงขึ้นได้นั้น หากผู้ใช้ ใช้งานร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์เช่น


ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสภาพดินได้อย่างยั่งยืน


ผลผลิตมั่นคง ให้ราคางาม เนื่องจากไม่ใช้สารเคมีเป็นส่วนผสม แต่หากผู้ใช้


ใช้งานร่วมกับสารเคมี อาจส่งผลผลิตได้ดีในระยะสั้น แต่ผลระยะยาวนั้นมากกว่า


เห็นได้จากที่มีปัญหาในปัจจุบัน

การบำบัดน้ำเสียด้วยEM






การบำบัดน้ำเสียด้วย EM



น้ำเสียหรือดินเสื่อมโทรมเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น



ตามระดับการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาประเทศที่เพิ่มขึ้น



โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อุตสาหกรรมและเขตชุมชนเมือง

หากมิได้มีการแก้ไขอย่างทันท่วงที


จะส่งผลที่ไม่พึงประสงค์อย่างมากมายต่อคุณภาพชีวิต

ดังนั้นการคิดค้น

ระบบการบำบัดต่างๆจึงเป็นเหตุผลสำคัญในการแก้ปัญหาเหล่านั้น

หลักการทั่วไปของการบำบัดน้ำเสีย



การเลือกระบบบำบัดน้ำเสียขึ้นกับปัจจัยต่างๆ

ได้แก่ลักษณะของน้ำเสีย

ระดับการบำบัดน้ำเสียที่ต้องการ



สภาพทั่วไปของตำแหน่งที่มีน้ำเสียค่าลงทุนก่อสร้าง

และค่าดำเนินการดูแลและบำรุงรักษา



และขนาดของที่ดินใช้ในการก่อสร้างเป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อให้ระบบบำบัดน้ำเสียที่เลือก

มีความเหมาะสมกับแต่ล่ะท้องที่



ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันโดยการบำบัดน้ำเสีย

สามารถแบ่งได้ตามกลไกที่ใช้ในการกำจัดสิ่งเจือปนในน้ำเสีย



ได้ดังนี้ ...



การบำบัดทางกายภาพ (Physical Tretment :

เป็นวิธีการแยกเอาสิ่งเจือปนออกจากน้ำเสีย



เช่น ของแข็งขนาดใหญ่ กระดาษ พลาสติก เศษอาหาร กรวด ทราย ไขมันและน้ำมัน



โดยใช้อุปกรณ์ในการบำบัดทางกายภาพ คือ ตะแกรงดักขยะ

ถังดักกรวดทราย ถังดักไขมันและน้ำมันและถังตกตะกอน



ซึ่งจะเป็นการลดปริมาณของแข็งทั้งหมดที่มีในน้ำเสียเป็นหลัก



การบำบัดทางเคมี(Chemical Treatment) :

เป็นวิธีการบำบัดน้ำเสียโดยใช้กระบวนการทางเคมี


เพื่อทำปฏิกิริยากับสิ่งเจือปนในน้ำเสีย

วิธีการนี้จะใช้สำหรับน้ำเสียที่มีส่วนประกอบอย่างใดอย่างหนึ่ง



ดังต่อไปนี้ คือ ค่าพีเอชสูงหรือต่ำเกินไปการบำบัดทางชีวภาพ



(Biological Treatment) :

เป็นวิธีการบำบัดน้ำเสียโดยใช้กระบวนการทาง ชีวภาพ



หรือใช้จุลินทรีย์ในการกำจัดสิ่งเจือปนในน้ำเสีย

โดยเฉพาะสารคาร์บอนอินทรีย์ ไนโตรเจน



และฟอสฟอรัสโดยความสกปรกเหล่านี้

จะถูกใช้เป็นอาหารและเป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ในถัง

เพื่อการเจริญเติบโต



ทำให้น้ำเสียมีค่าความสกปรกลดลง



โดยจุลินทรีย์เหล่านี้อาจเป็นแบบใช้ออกซิเจน (Aerobic Organisms)

หรือไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic Organisms) ก็ได้





วิธีการใช้EMบำบัดน้ำเสียผสม EM ขยาย

ดูวิธีการขยายได้ที่นี่ http://bigfeeling.blogspot.com/2009/05/em_2779.html



ในอัตราส่วน1 : 10000 เทลงในบ่อพัก



ทุกๆ5-7วัน หรือทุก 15วัน จะช่วยกำจัดกลิ่นและทำให้น้ำใสสะอาดขึ้น



ช่วยทำให้แมลงวัน แมลงสาบ ยุง ฯลฯ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

รู้จักกับ CARE &CLEAN ...


CARE&CLEAN เป็นชื่อที่ใช้เรียก EM ที่ได้มีการวิจัยใช้เทคโนโลยีทางชีวภาพ


เพื่อรวบรวมเฉพาะกลุ่มจุลลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในธรรมชาติ


มาใช้ประโยชน์ช่วยปรับความสมดุลของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น


เหมาะสำหรับกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ต่างๆจากสัตว์เลี้ยง เช่น กลิ่นสาบสุนัข กลิ่นฉี่กระต่าย


รวมถึงบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่ ชำระล้าง คอก พื้น ถาดรองกรง ใช้ได้กับสัตว์ทุกชนิด


ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง อีกทั้งช่วยฟื้ฟูสิ่งแวดล้อม เช่น


การบำบัดน้ำเสีย ปรับปรุงคุณภาพดิน


ดับกลิ่นจากบ่อเกรอะจุลลินทรีย์หมวดสร้างสรรค์ที่มีในCLEAN&CARE มีหลากหลายชนิด


ยกตัวอย่าง เช่น แลกโตบาซิลลัส พินีซีเลี่ยม ไรโบเซียม ยีส


และจุลลินทรีย์ที่ผลิตกรดแลกติค เป็นต้น โดยจุลลินทรีย์นี้มีพลัง


“แอนติออกซิเดชั่น”ซึ่งเป็นพลังสร้างสรรค์ของชีวิต ป้องกันไม่ให้มีการทำลายชีวภาพของเซลล์


รักษาสุขภาพของคนและสัตว์ไม่ให้เจ็บป่วยเป็นโรคง่าย



*********************************



ข้อควรรู้ในการใช้CARE&CLEAN


เนื่องจาก EM เป็นสารสกัดทางชีวภาพ เป็นสิ่งมีชีวิต


ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีใดๆทั้งสิ้น สามารถใช้เพิ่มในปริมาณมากได้


แต่ EM ไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมีได้ เพราะจะทำให้ EM ตาย ใช้ไม่ได้ผ

EM คืออะไร ??




EM ย่อมาจาก .........



Effective Microgranisms



หมายถึง กลุ่มจุลลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ



ซึ่ง ศ.ดร.เทรู โอะ ฮิงะนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชสวน มหาวิทยาลัยริวกิวประเทศญี่ปุ่น



เริ่มค้นคว้าและค้นพบ EM เมื่อปีพ.ศ.2510 ปัจจุบันในประเทศไทยรู้จักกันในกลุ่มเกษตรกร



โรงงานอุตสาหกรรม(เพื่อบำบัดน้ำเสีย) และ ผู้ที่ทำฟาร์มสัตว์



จากการวิจัยพบว่าจุลลินทรีย์มี2กลุ่ม คือ



1. ประเภทต้องการอากาศ



2. ประเภทไม่ต้องการอากาศ



และที่อยู่ใน EM กว่า 80% เป็นกลุ่มไม่ต้องการอากาศ ดังนั้นเมื่อเปิดใช้แล้วจึงควรปิดทันที



EM จะมีลักษณะเป็นของเหลว สีน้ำตาล มีกลิ่นอมเปรี้ยวอมหวาน



เมื่อวางทิ้งไว้จะเกิดฝ้าขาวๆจับบนผิวน้ำ หากลองเขย่าดูจะเกิดฟอง



ซึ่งจุลินทรีย์ทั้ง 2 ประเภทนี้ต้องอยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพา หากจะแยกของกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์



สามารถแยกได้ดังนี้ กลุ่มแบคทีเรียที่มีหน้าที่สร้างกรดแลคตริก



มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นโทษ



ทำหน้าที่เปลี่ยนสภาพดินที่เน่าเปื่อยให้เป็นดินที่ต้านทานโรค โรคของพืชที่มาจากดินจะน้อยลง



กลุ่มจุลินทรีย์ที่สังเคราะห์แสง ทำหน้าที่ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้แก่ดิน เพิ่มแร่ธาตุจำพวก



ไนโตรเจน โปรตีน(กระอะมิโน) น้ำตาล วิตามิน มีอากาศในดินเพิ่มมากขึ้น ดินร่วนซุย



กลุ่มจุลินทรีย์พวกเชื้อราที่มีเส้นใย ทำหน้าที่เร่งการย่อยสลาย



สามารถทำงานได้ดีในสภาพไม่มีออกซิเจน ต้านทานต่อความร้อนได้ดี



โดยทั่วไปมักมีในหัวเชื้อผลิตเหล้า ผลิตปุ๋ยหมัก กลุ่มจุลินทรีย์ที่เป็นพวกยีสต์ เช่น แลกโตบาซิรัส



และราชนิดต่างๆ ช่วยย่อยสลายแบคทีเรียในสัตว์ เพื่อเนื้อให้สัตว์ได้มากขึ้น



และยังมีส่วนในการเร่งผลผลิตทางการเกษตรได้เป็นอย่างดี


ปัจจุบัน EM ได้รับความนิยมขยายไปสู่ชาวโลก
เนื่องจากเป็นจุลินทรีย์ที่ไม่มีพิษภัย
มีแต่ประโยชน์ ถ้าสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
และมุ่งเน้นการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ทำให้การขยายการใช้ EM
ไป สู่เกษตรกรและองค์กรทั่วโลกแล้วกว่า 30 ประเทศ
อาทิ
International Nature Farming Reserch Center Movement (INFRC) JAPAN,
EM Research Orgnization (EMRO) JAPAN,
International Federation of Agriculture Movement (IFOAM) GERMANY
เป็นต้น และ California Certified Organics Farmers
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเกษตรธรรมชาติได้ให้คำรับรองเมื่อ
คศ.1993 ว่าเป็นวัสดุประเภทจุลินทรีย์ (Microbial Innoculant)
ที่ปลอดภัยและได้ผลจริง 100 %
สำหรับในประเทศไทย
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข
ได้นำไปวิเคราะห์แล้วรับรองว่าจุลินทรีย์ EM
ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์
จึงสามารถนำ EM ไปใช้ประโยชน์ได้หลายประการ